วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
วิธีเข้าหน้าต่างผู้ดูแลระบบ joomla
http://golf.kvc.ac.th/administrator/index.php
วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553
ความรัก...เปลี่ยนแปลงได้
รอยเท้าของเราเหยียบย่ำไปท่ามกลางความสับสน
บางครั้งเข็มนาฬิกาก็เดินเร็วขึ้น...บางครั้งกลับเดินช้าลง
ทุกอย่างไม่เป็นดั่งที่วาดหวังไว้เสียที
เพราะเราควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้
ความคิดของเขา...อาจทำให้เราเจ็บปวดจนสุดจะทน
แต่เราก็ยังจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่...เพื่อรับรู้ถึงความเจ็บปวด นั้น
ดังนั้นเมื่อมีน้ำตาและตัดสินใจว่าจะต้องเปลี่ยนแปลง อย่าหันกลับไปทางเดิม
เพราะเรากำลังจะเดินจากมันมา...อาจไม่ใช่เขาหรือเราเป็นคนไม่ดี
แต่ในบางเรื่อง...ก็อาจมีเหตุผลมากกว่าหนึ่งอย่าง
อย่าพูดว่าเราทำเพื่อเขา...แต่กลับเอาตัวของเราเป็นที่ตั้ง
เพราะนั่นไม่ใช่รักที่แท้จริง
ถ้าบนทางเดินที่ผ่านมาเราก้าวเร็วเกินไป
มองย้อนกลับไปดูตัวเองใหม่...แล้วหัดเดินให้ช้าลง
วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553
การทำภาพถ่ายให้เป็นภาพลายเส้นเหมือนใช้ดินสอวาด
2. กด ctrl + j เพื่อ copy layer
3. คลิกคำสั่ง Image >> Adjustments >> Invert เพื่อปรับค่าสี
4. ที่ช่อง Layer Blending Mode ให้เปลี่ยนเป็นโหมด Color Dodge
5. คลิกคำสั่ง Filter >> Blur >> Guassian Blue กำหนดค่า Radius = 2 จะทำให้ภาพ blur เล็กน้อย
6. คลิกสร้าง Layer ใหม่ แล้วกดปุ่ม บนคีย์บอร์ดเพื่อรวมเลเยอร์ โดยที่ยังเก็บต้นฉบับเอาไว้
7. คลิกคำสั่ง Image >> Adjustments >> Threshold เพื่อเรียกคำสั่งปรับสีมาใช้งาน
8. กำหนดค่า Threshold Level = 240 แล้วคลิก ok
9. ก็จะได้ภาพลายเส้นที่ต้องการแล้ว
การใช้คำสั่ง HDR Toning
2. คลิกที่ File >> Open เพื่อเปิดรูปที่ต้องการขึ้นมา แล้วเลือกรูปภาพที่ต้องการ จากนั้นคลิกปุ่ม ok
3. แล้วเลือกคำสั่ง Image >> Adjustments >> HDR Toning ก็จะปรากฏหน้าต่างให้เราปรับแต่งค่าต่างๆ เสร็จแล้วก็กด ok
วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553
เทคนิคทำภาพแนว LOMO อย่างง่าย ๆ
ขั้นตอนที่ 1 เปิดภาพที่คุณต้องการทำภาพแนว LOMO จากตัวอยากต้นฉบับภาพที่จะนำมาใช้ตามรูปที่ 1 จากนั้นให้คุณใช้คำสั่ง Image ---> Adjusments --->Curves ... ปรับค่าให้ได้ตามภาพตำแหน่งที่ 1
ขั้นตอนที่ 2 ให้ใช้คำสั่ง Image ---> Adjusments --->Color Balance ครั้งแรก ปรับค่าต่าง ๆ ตามภาพตำแหน่งที่ 2 จากนั้นใช้คำสั่ง Color Balance อีกครั้งและปรับค่าต่าง ๆ ตามภาพตำแหน่งที่ 3
ขั้นตอนที่ 3 ใช้คำสั่ง Layyer ---> New Fill Layer --->Gredient จะปรากฏภาพดังตำแหน่งที่ 4 ให้ทำการปรับค่าต่าง ๆ ให้ได้ตามภาพที่ตำแหน่งที่ 4 จากนั้นให้คลิกที่แถบสี Gredient แล้วปรับค่าต่าง ๆ ตามภาพตำแหน่งที่ 5
วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553
Code PHP
?PHP
echo "
";
$score1 = 80;
$score2 = 72;
$score3 = 45;
$score4 = 86;
$score5 = 55;
if(($score1<=49))
{
$grade = 0;
}
elseif ($score1 <=54)
{
$grade = 1;
}
elseif($score1<=59)
{
$grade = 1.5;
}
elseif($score1<=64)
{
$grade = 2;
}
elseif($score1<=69)
{
$grade = 2.5;
}
elseif($score1<=74)
{
$grade = 3;
}
elseif($score1<=79)
{
$grade = 3.5;
}
else
{
$grade = 4;
}
echo "< color =" blue">คนที่ 1 มีคะแนน $score1 คะแนน
";
echo "เกรด = $grade
";
echo "###########################
";
if(($score2<=49))
{
$grade = 0;
}
elseif ($score2 <=54)
{
$grade = 1;
}
elseif($score2<=59)
{
$grade = 1.5;
}
elseif($score2<=64)
{
$grade = 2;
}
elseif($score2<=69)
{
$grade = 2.5;
}
elseif($score2<=74)
{
$grade = 3;
}
elseif($score2<=79)
{
$grade = 3.5;
}
else
{
$grade = 4;
}
echo "คนที่ 2 มีคะแนน $score2 คะแนน
";
echo "เกรด = $grade
";
echo "###########################
";
if(($score3<=49))
{
$grade = 0;
}
elseif ($score3 <=54)
{ $grade = 1;
}
elseif($score3<=59)
{
$grade = 1.5;
}
elseif($score3<=64)
{
$grade = 2;
}
elseif($score3<=69)
{
$grade = 2.5;
}
elseif($score3<=74)
{
$grade = 3;
}
elseif($score3<=79)
{
$grade = 3.5;
}
else
{
$grade = 4;
}
echo "คนที่ 3 มีคะแนน $score3 คะแนน
";
echo "เกรด = $grade
";
echo "###########################
";
if(($score4<=49))
{
$grade = 0;
}
elseif ($score4 <=54)
{
$grade = 1;
}
elseif($score4<=59)
{
$grade = 1.5;
}
elseif($score4<=64)
{
$grade = 2;
}
elseif($score4<=69)
{
$grade = 2.5;
}
elseif($score4<=74)
{
$grade = 3;
}
elseif($score4<=79)
{
$grade = 3.5;
}
else
{
$grade = 4;
}
echo "คนที่ 4 มีคะแนน $score4 คะแนน
";
echo "เกรด = $grade
";
echo "###########################
";
if(($score5<=49))
{
$grade = 0;
}
elseif ($score5 <=54)
{
$grade = 1;
}
elseif($score5<=59)
{
$grade = 1.5;
}
elseif($score5<=64)
{
$grade = 2;
}
elseif($score5<=69)
{
$grade = 2.5;
}
elseif($score5<=74)
{
$grade = 3;
}
elseif($score5<=79)
{
$grade = 3.5;
}
else
{
$grade = 4; }
echo "คนที่ 5 มีคะแนน $score5 คะแนน
";
echo "เกรด = $grade
";
echo "###########################
";
?>
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ชนิดข้อมูลใน MySQL
TINYINT :สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่มีขนาด 8 บิต ข้อมูลประเภทนี้เราสามารถกำหนดเพิ่มเติม ในส่วนของ "แอตทริบิวต์" ได้ว่าจะเลือกเป็น UNSIGNED หรือ UNSIGNED ZEROFILL โดยจะมีความแตกต่างดังนี้UNSIGNED : จะหมายถึงเก็บค่าตัวเลขแบบไม่มีเครื่องหมาย แบบนี้จะทำใหสามารถเก็บค่าได้ ตั้งแต่ 0 - 255 UNSIGNED ZEROFILL : เหมือนข้างต้น แต่ว่าหากข้อมูลที่กรอกเข้ามาไม่ครบตามจำนวน หลักที่เรากำหนด ตัว MySQL จะทำการเติม 0 ให้ครบหลักเอง เช่น ถ้ากำหนดให้ใส่ได้ 3 หลัก แล้วทำการเก็บข้อมูล 25 เข้าไป เวลาที่สืบค้นดู เราจะได้ค่าออกมาเป็น 025 หากไม่เลือก "แอ ตทริบิวต์" สิ่งที่เราจะได้ก็คือ SIGNED นั่นก็คือต้องเสียบิตนึงไปเก็บเครื่องหมาย บวก/ลบ ทำ ให้สามารถเก็บข้อมูลได้อยู่ในช่วง -128 ถึง 127 เท่านั้น
TEXT :เป็น text ที่ความกว้างเป็นได้สูงสุด 65,535 ตัวอักษร
DATE :ขนาดที่เก็บ 3 ไบต์เก็บค่าวันที่ในรูปแบบ YYYY-MM-DDโดยมีค่าตั้งแต่ 1000-01-01 ถึง 9999-12-31
SMALLINT :สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 16 บิต จึงสามารถเก็บค่าได้ตั้งแต่ -32768 ถึง 32767 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 65535 (ในกรณี UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย)ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ TINYINT
MEDIUMINT :สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขที่มีขนาด 24 บิต นั่นก็หมายความว่าสามารถเก็บ ข้อมูลตัวเลขได้ตั้งแต่ -8388608 ไปจนถึง 8388607 (ในกรณีแบบคิดเครื่องหมาย) หรือ 0 ถึง 16777215(ในกรณีที่เป็น UNSIGNED หรือไม่คิดเครื่องหมาย) ซึ่งสามารถเลือก Attribute เป็น UNSIGNED และ UNSIGNED ZEROFILL ได้เช่นเดียวกับ T
INT :ขนาดที่เก็บ 4 ไบต์UNSIGNED เก็บค่าจำนวนเต็ม 0 ถึง 4294967295SIGNED เก็บค่าจำนวนเต็ม -2147483648 ถึง 2147483647
BIGINT :ขนาดที่เก็บ 8 ไบต์UNSIGNED เก็บค่าจำนวนเต็ม 0 ถึง 18446744073709551615SIGNED เก็บค่าจำนวนเต็ม -9223372036854775808 ถึง 9223372036854775807
FLOAT :ขนาดที่เก็บ 4 ไบต์เก็บค่าจำนวนจริงแบบ IEEEตั้งแต่ -3.402823466E+38 ถึง -1.175494351E-38และ 0และ 1.175494351E-38 ถึง 3.402823466E+38
DOUBLE :ขนาดที่เก็บ 8 ไบต์เก็บค่าจำนวนจริงแบบ IEEEตั้งแต่ -1.7976931348623157E+308 ถึง -2.2250738585072014E-308และ 0และ 2.2250738585072014E-308 ถึง 1.7976931348623157E+308
DECIMAL :สำหรับเก็บข้อมูลประเภทตัวเลขทศนิยม เช่นเดียวกับ FLOAT แต่ใช้กับข้อมูลที่ ต้องการความละเอียดและถูกต้องของข้อมูลสูง ข้อสังเกต เกี่ยวกับข้อมูลประเภท FLOAT, DOUBLE และDECIMAL ก็คือ เวลากำหนดความ ยาวของข้อมูลในฟิลด์ จะถูกกำหนดอยู่ในรูปแบบ (M,D) ซึ่งหมายความว่า ต้องมีการระบุว่า จะให้มี ตัวเลขส่วนที่เป็นจำนวนเต็มกี่หลัก และมีเลขทศนิยมกี่หลัก เช่น ถ้าเรากำหนดว่า FLOAT(5,2) จะ หมายความว่า เราจะเก็บข้อมูลเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม 5 หลัก และทศนิยม 2 หลัก ดังนั้นหากทำการใส่ ข้อมูล 12345.6789 เข้าไป สิ่งที่จะเข้าไปอยู่ในข้อมูลจริงๆ ก็คือ 12345.68 (ปัดเศษให้มีจำนวนหลัก ตามที่กำหนดไว้)
DATETIME : สำหรับเก็บข้อมูลประเภทวันที่ และเวลา โดยจะเก็บได้ตั้งแต่ 1 มกราคม ค.ศ. 1000 เวลา 00:00:00 ไปจนถึง 31 ธันวาคม ค.ศ. 9999 เวลา 23:59:59 โดยรูปแบบการแสดงผล เวลาที่ทำการสืบค้น (query) ออกมา จะเป็น YYYY-MM-DD HH:MM:SS
TIMESTAMP :ขนาดที่เก็บ 4 ไบต์เก็บวันที่และเวลาในรูปแบบ String Timestampm = 14 หรือไม่กำหนด -> YYYYMMDDHHmmSSm = 12 -> YYMMDDHHmmSSm = 10 -> YYMMDDHHmmm = 8 -> YYYYMMDDm = 6 -> YYMMDDm = 4 -> YYMMm = 2 -> YYโดยมีค่าตั้งแต่ 1970-01-01 00:00:00 ถึง 2037
TIME :ข้อมูลประเภทเวลา สามารถเป็นได้ตั้งแต่ ‘-838:59:59’ ถึง ‘838:59:59’ แสดงผลในรูปแบบ HH:MM:SS
YEAR :ข้อมูลประเภทปี คศ โดยสามารถเลือกว่าจะใช้แบบ 2 หรือ 4 หลักถ้าเป็น 2 หลักจะใช้ได้ตั้งแต่ปี คศ 1901 ถึง 2155ถ้าเป็น 4 หลักจะใช้ได้ตั้งแต่ปี คศ 1970 ถึง 2069
CHAR :เป็นข้อมูลสตริงที่จำกัดความกว้าง ไม่สามารถปรับขนาดได้ ขนาดความกว้างเป็นได้ตั้งแต่ 1 ถึง 255 ตัวอักษร
TINYBLOB :สำหรับเก็บข้อมูลประเภทไบนารี ได้แก่ ไฟล์ข้อมูลต่างๆ, ไฟล์รูปภาพ, ไฟล์มัลติมีเดีย เป็นต้น คือไฟล์อะไรก็ตามที่อัพโหลดผ่านฟอร์มอัพโหลดไฟล์ในภาษา HTML โดย TINYBLOB นั้นจะมีเนื้อที่ให้เก็บข้อมูลได้ 256 ไบต์
TINYTEXT :ขนาดที่เก็บตามข้อมูลจริง +1 ไบต์ แต่ไม่เกิน 255 ไบต์เก็บค่าอักษรตามรหัส ASCII หรือข้อมูล BINARY
BLOB :ขนาดที่เก็บตามข้อมูลจริง +2 ไบต์ แต่ไม่เกิน 65535 ไบต์เก็บค่าอักษรตามรหัส ASCII หรือข้อมูล BINARY
MEDIUMBLOB :ขนาดที่เก็บตามข้อมูลจริง +3 ไบต์ แต่ไม่เกิน 16777215 ไบต์เก็บค่าอักษรตามรหัส ASCII หรือข้อมูล BINARY
MEDIUMTEXT :ขนาดที่เก็บตามข้อมูลจริง +3 ไบต์ แต่ไม่เกิน 16777215 ไบต์เก็บค่าอักษรตามรหัส ASCII หรือข้อมูล BINARY
LONGBLOB :ขนาดที่เก็บตามข้อมูลจริง +4 ไบต์ แต่ไม่เกิน 4294967295 ไบต์เก็บค่าอักษรตามรหัส ASCII หรือข้อมูล BINARY
LONGTEXT :ขนาดที่เก็บตามข้อมูลจริง +4 ไบต์ แต่ไม่เกิน 4294967295 ไบต์เก็บค่าอักษรตามรหัส ASCII หรือข้อมูล BINARY
ENUM :ขนาดที่เก็บ 1 หรือ 2 ไบต์ ตามจำนวนค่า value ซึ่งกำหนดได้มากที่สุด 65535 ค่าเก็บค่าตาม value ที่กำหนด
SET :ขนาดที่เก็บ 1, 2, 3, 4 หรือ 8 ไบต์ ตามจำนวนค่า value ซึ่งกำหนดได้มากที่สุด 64 ค่าเก็บค่าตาม value ที่กำหนด
BOOL :เป็นชนิดข้อมูลที่เก็บได้เพียง2ค่าเท่านั้น คือ True กับ false
BINARY :ระบบเลขที่มีสัญลักษณ์เพียงสองตัวคือ 0 (ศูนย์) กับ 1 (หนึ่ง) บางครั้งอาจหมายถึงการที่มีโอกาสเลือกได้เพียง 2 ทาง เช่น ปิดกับเปิด, ไม่ใช่กับใช่, เท็จกับจริง, ซ้ายกับขวา เป็นต้น
VARBINARY:คือ มีลักษณะการเก็บคล้าย Varcha คือการเก็บข้อมูลตามที่รับมาจริงเท่านั้น มีขนาดสูงสุดมากถึง 8000 ไบต์
วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552
วิธีการติดตั้ง Appserv
วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552
Vocaburaly Database
DBMS (data base management system):ดาต้าเบส เมนเนทเม้น ซิลเต้ม:ระบบการจัดการฐานข้อมูล
Database Administrators : DBAs:ดาต้าเบส แอดมินิสทราเตอร์:ผู้ดูแลระบบฐานข้อมูล
Database Development:ดาต้าเบส ดีวีลอปเม้น:การพัฒนาฐานข้อมูล
Data Definition Language : DDL:ดาต้าดีปฟินิชัน แลงกริช:การพัฒนาฐานข้อมูลในภาษานิยามฐานข้อมูล
Data Interrogation:ดาต้าอินเทอเกชัน:การสืบค้นหาข้อมูล
Graphical and Natural Queries:กราฟิกเชียล แอน เนทรูเรียล คิวเชอไรล:คำถามภาพและธรรมชาติ
Application Development:แอปพลิเคชัน ดีวีลอปเม้น:การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
Data Manipulation Language : DML:ดาต้ามินิพลูเรชัน แลงกริช:การเปลี่ยนแปลงข้อมูลในฐานข้อมูล
Subject Area Database : SADB:ซับเจค แอเรียล ดาต้าเบส:ฐานข้อแมลซับเจคแอเรียล
Analytical Database:อแนลรี่ทิเคิล ดาต้าเบส:ฐานข้อมูลเชิงวิเคราะห์
Multidimensional Database:มิลทินิเม้นซินอล ดาต้าเบส:การจัดเก็บข้อมูลที่สามารถแสดงผลได้หลายมิติ
Data Warehouses: ดาต้า แวร์เฮาส : คลังข้อมูล
Distributed Databases: ดิสไทบูล ดาต้าเบส:ฐานข้อมูลแบบกระจาย
End User Databases: เอน ยูสเซอ ดาต้าเบส:ฐานข้อมูลผู้ใช้
Field:ฟิวส์:เขตข้อมูล หน่วยของข้อมูลที่ประกอบขึ้นจากตัวอักขระตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไปมารวมกัน
Record:รีครอท:ระเบียน หน่วยของข้อมูลที่เกิดขึ้นจากการนำเอาเขตข้อมูลหลาย ๆเขตมารวมกัน
Table:เทเบิล:ตาราง เป็นการเก็บข้อมูลในรูปแบบของข้อมูล
Entity:เอ็นทิตี้:ชื่อของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลไว้
InfraStucture Management:อินฟราสตักเจอ เมนเนทเม้น:การจัดการโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล
วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552
Vocaburaly
วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552
-แบบฝึกหัดบทที่ 4
Single Column Toolbar เมนูนี้เปลี่ยนไปจากเวอร์ชั่น CS2 ที่มี2แถวในเวอร์ชั่น 3 ลดลงเหลือแถวเดียว นับว่าประหยัดพื้นที่แต่สามารถเปลี่ยนมาใช้แบบสองแถวที่คุ้นเคยได้Camera Raw นั้นคือฟีเจอร์ในการตกแต่งภาพจากกล้องดิจิตอล ที่ยังคงรักษาคุณภาพของภาพไว้ 100% โปรแกรม Adobe Photoshop CS2 ก็เคยทำได้แต่ในเวอร์ชั่นใหม่ทำได้ดีกว่ามากและมีฟังก์ชั่นที่ดีกว่าเดิมมากอย่าง Fill Light Slider (เช่นเดียวกับ Shadow Slider) และ Vibrance Slider ซึ่งเป็นตัวเพิ่มความเข้มของภาพโดยไม่กระทบต่อไฟล์ต้นฉบับ
11. ให้นักศึกษาหาความหมายของเครื่องมือใน Adobe PhotosshopCS3 พร้อมอธิบาย
Move Tool ใช้ในการเลื่อน Layer และ Guide ต่างๆ
Marquee Tool ใช้ในการเลือกสี่เหลี่ยมผืนผ้า วงกลม ฯลฯ
Lasso Tool ใช้ในการเลือกแบบอิสระ
Magic Wand Tool ใช้ในการเลือกโดยอาศัยความสว่างและโทนสี
Crop Tool ใช้ในการเลือกบางส่วนของรูปภาพ
Slice Tool ใช้ในการสร้าง Slice หรือรูปย่อยๆ
Healing Brush Tool ใช้ในการระบายสี ซ่อมแซมรูปภาพให้สมบูรณ์
Brush Tool ใช้ในการวาดเส้น
Clone Stamp Tool ใช้ในการคัดลอกรูปโดยอาศัยรูปภาพต้นฉบับ
Healing Brush Tool ใช้ในการกลับคืนรูปภาพหรือลบบางส่วน
Eraser Tool ใช้ในการลบรูปภาพหรือบางส่วน
Paint Bucsh Toolใช้ในหารเติมสี Fill ในบริเวณที่เป็นสีเดียวกัน
Burn Tool ใช้ลดความสว่าง ทำให้ภาพดูมือลง
Pen Tools ใช้ในการลากเส้น path ซึ่งสามารถดัดโคร้งตามรูปภาพได้
Type Tool ใช้ในการพิมพ์ตัวอักษร
Path Selsction Path ใช้เพื่อเลือก shape หรือ Path เพื่อแสดงAnchor Paint
Custom Shape Tool ใช้เลือกรูปภาพ เลือกรูปภาพที่มีรูปร่างเฉพาะ
Animations Tool ใช้เขียนโน๊ต หรือแนบเสียงไปกับรูปภาพได้
Eyedropper Tool ใช้ในการดูดสีจากรูปภาพเพื่อใช้เป็นต้นแบบของสีกับงานชิ้นอื่นๆ
Hand Tool ใช้เลื่อนภาพที่อยู่หน้าต่างเดียวกัน
Zoom Tool ใช้ย่อ-ขยายภาพ
วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552
-แบบฝึกหัดบทที่ 5
1. สร้างไพล์ขึ้นมาใหม่โดยไปที่เมนู File-->New จากนั้นกำหนดขนาดความกว้าง 300 pixels
ความสูง 135 pixels และความละเอียด 72 pixels/inch ชนิดเป็น RGB Corol พื้นเป็น White
แล้วคลิกปุ่ม OK
2. เลือกเครื่องมือ rectangular tool แดรกเมาส์ตีกรอบสี่เหลี่ยม
3. ไปเลือกเครื่องมือ Gradient tool เลือกรายละเอียดรูปแบบการแสดงผล และ สี โดยเลือกสีเหลือง
แล้วไล่เฉดจากเหลืองเข้มไปหาสีขาว จากนั้นไปแดรกเมาส์จากซ้ายมาขวา
4. ย่อเส้นปะเข้ามาอีก 10 จุด โดยไปที่เมนู Select-->Modify-->Contract ใส่ตัวเลข 10 pixels
แล้วกดปุ่ม OK
5. แดรกเมาส์จากด้านขาวมาด้านซ้าย ทำการยกเลิกการเลือกโดยไปที่ Select-->Deselect
6. ไปที่เครื่องมือ Type tool เลือกสี fore ground สี แดง แล้วมาคลิกในปุ่มเพื่อพิมพ์ข้อความมว่า 3D
และย้ายข้อความมาไว้ตรงกลาง โดยเลือกชนิดอักษร Arial Black ขนาด 79 pt และเลือกสีเป็นสีแดง
7. ไปที่เมนู Layer-->Type-->Convert to Shape จะปรากฏกรอบรอบข้อความ จากนั้นไปที่เมนู
Edit-->Transform-->Perspective ดแรกเมาส์ที่มุมเพื่อปรับเปลี่ยนเป็นรูปทรงที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Enter เมื่อได้ภาพที่ต้องการ
8. ทำอักษรให้นูน โดยไปที่เมนู Layer-->Layer Style-->bevet and Emboss
9. จากนั้นจะปรากฏรายละเอียดต่าง ๆ ให้เลือก ลองเลือกคลิก [/] เพื่อดูรูปแบบการแสดงผลแบบต่าง ๆ
และเลือกสีตามต้องการ
10. เลือกเสร็จกด OK
11. ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรลำแสง
1. สร้างไพล์ใหม่ขนาด 500 pixels * 350 pixels และความละเอียด 100 pixels/inch
และขึ้นเป็นสีขาว
2. เลือกเครื่องมือ Paint tool เทสีดำลงในเลเยอร์ Background และไปที่เครื่องมือ Type tool
เลือกฟอนต์ Arial ตัวหนาขนาด 29 pt สีขาว แล้วพิมพ์ข้อความว่า KITTKHAN
3. กดคีย์บอร์ด [Ctrl+J] เพื่อ Duplicate Layers จากนั้นเปลี่ยนสีตัวอักษรที่ Layers kittkhan
copy ให้เป็นสีดำ ทำการซ่อน Layers Layer kittkhan copy จากนั้นคลิกรวมเลเยอร์ Background
และ layer kittkhan copy [Ctrl + E รวมเลเยอร์]
4. ไปที่เมนู Filter-->Stylize-->Wind แล้วเลือก [/]Wind และ [/]From the Right
5. กดคีย์บอร์ด [Ctri+J] เพื่อ Dsuplicate layers แล้วไปที่เมนู Filter-->Stylize-->Wind
แล้วเลือก [/]Wind และ [/]From the Left ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการทำหัวข้อแบบลำแสงกระจายทั้งสองด้าน
12.ให้นักศึกษาอธิบายเครื่องมือต่อไปนี้
1. Link layer คือการเชื่อมโยง layer
2. Add a layer Style คือส่วนที่ใส่ Effect เช่น แสง เงา
3. Add a mask คือส่วนที่ใช้เพิ่มเติม Mask หรือ เพิ่ม 1 layer
4. Create new fill or adjustment layer คือส่วนที่ใช้ปรับค่าสี ความคมชัด แสงและความสว่าง
5. Create a new group คือส่วนที่ใช้กระดาษทำการใหม่ โดยคัดลอกภาพจากลำดับทาชี้อยู่
6. Create a new layer คือใช้สำหรับสร้าง layer ใหม่
7. Delete layer คือใช้สำหรับลบ layer
-แบบฝึกหัดบทที่ 6
1. คือ เฟรม ที่ใช้แสดงลำดับภาพนิ่งแต่ละส่วน
2. คือ ตัวกำหนดเวลาในการแสดงผล
3. คือ ปุ่มควบคุมการวนซ้ำ ถ้า Forever คือวนรอบไปเรื่อย ๆ ถ้าวนรอบ 1 รอบใช้ Once
4. คือ ปุ่มควบคุม ที่ใช้แสดงตัวอย่างของภาพ Animation หรือจะกระโดดไปที่เฟรมอื่น ๆ ตามสที่ต้องการก็ได้
5. คือ ปุ่มสร้างภาพ Animation อย่างต่อเนื่อง ที่โปรแกรมคำนวณอยู่ระหว่างเฟรมเริ่มต้นและเฟรมสุดท้าย
6. คือ ปุ่มสร้างเฟรมใหม่ ซึ่งจะใช้เมื่อต้องการสร้างรูปแบบการเคลื่อนไหวใหม่ ๆ เข้าไป
7. คือ ปุ่มลบเฟรม เอาไว้ลบเฟรมที่ไม่ต้องการทิ้งไป
14. ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้างตัวอักษรเคลื่อนไหวแบบ Fade
1. เปิดไพล์ภาพขึ้นมา โดยไปที่เมนู File ->Opne -> จากนั้นไปเลือกชื่อไพล์ที่ต้องการเปิดและคลิก Opne
2. กำหนดขนาดของภาพให้มีขนาดความกว้าง 444 pixels จากนั้นไปเปิดไพล์อื่นออกมาอีก 3 ไพล์และคัดลอกมาไว้ที่ไพล์นี้
3. ไปเปิดที่เมนู Windows --->Animation และทำการ Duplicates Select Frames ขึ้นมาอีก 3 เฟรม
4. กด
5. จากนั้นคลิกที่เฟรมที่ 1 และคลิกเลเยอร์ให้แสดงเฉพาะอันแรก
6. เฟรมที่ 2 ให้คลิกเลือกเลเยอร์แรกกับเลเยอร์ที่ 2
7. กำหนดเฟรมที่ 1 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 1 จากนั้นไปเลือกที่เครื่องมือ Tweens Animation Frames
เพื่อกำหนดให้แสดงผลและกำหนดจำนวณเฟรมเพิ่มขึ้นอีก 7 เฟรม แล้วตอบ OK
8. กำหนดเฟรมที่ 2 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 2 จากนั้นไปที่เครื่องมือ Tweens Animation Frames
เพื่อกำหนดให้แสดงผลและกำหนดจำนวณเฟรมเพิ่มอีก 4 เฟรม แล้วตอบ OK
9. กำหนดเฟรมที่ 3 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 3 จากนั้นไปที่เครื่องมือ Tweens Animation Frames
เพื่อกำนหดให้แสดงผลและกำนหดจำนวณเฟรมเพิ่มอีก 9 เฟรม แล้วตอบ OK
10. กำหนดเฟรมที่ 4 เพื่อจะให้แสดงผลแบบ Fade โดยคลิกที่เฟรมที่ 4 จากนั้นไปที่เครื่องมือ Tweens Animation Frames
เพื่อกำหนดให้แสดงผลและกำหนดจำนวณเฟรมเพิ่มอีก 3 เฟรม แล้วตอบ OK
15. ให้นักศึกษาอธิบายวิธีการสร้าง Gallrey ภาพถ่ายให้กับเว็บไซต์
1. สร้างโฟลดอร์ไว้สำหรับเก็บไพล์ที่ต้องการ
2. สร้างไพล์ขนาด 400 pixels * 300 pixels แล้วเก็บไว้ในโฟลเดอร์ดังกล่าว
3. ไปที่เมนู File -->Automate -->Wed Photo Gallery จะปรากฏหน้าจอ
4.เลือกรูปแบบหรือสไตล์ที่ชอบ คลิกเลือกปุ่มโฟลเดอร์แหล่งของภาพที่สร้างไว้ คลิกเลือกเส้นทางที่จะเก็บงานที่ส้ราง
Gallery เลือกคุณสมบัติของภาพ แล้วตอบ OK จะได้ภาพที่ต้องการในรูปแบบ html
วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552
-การทำส่วนหัวด้วยตัวอักษรลำแสง
1.สร้างไฟล์ใหม่ โดยคลิกที่ file > New กำหนดความกว้าง 1010 pixels ความสูง 125 pixels ความละเอียด 100 pixels/inch และกำหนดพื้นหลังเป็นสีขาว
2.คลิกเลือกเครื่องมือ paint tool แล้วเทสีดำลงบนพื้นหลัง จากนั้นคลิกเลือกเครื่องมือ Type Tool กำหนดสีตัวอักษรเป็นสีขาวเลือก font และขนาดแล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไป
3.กดคีย์บอร์ด [ctrl+J] เพื่อ Duplicate Layers แล้วเปลี่ยนสีตัวอักษรเป็นสีดำ ทำการซ่อน layer ที่copyมา จากนั้นคลิกรวมเลเยอร์ background และlayerตัวอักษรที่ copyมาเข้าด้วยกัน โดยกด Ctrl+E
4.ไปที่เมนู Filer > stylize > wind แล้วคลิกเลือก wind และ From the Right
5.กดคีย์บอร์ด [Ctrl+J] เพื่อ Duplicate Layers แล้วไปที่เมนู Filter > stylize > wind แล้วเลือก wind และ From the left (เลเยอร์คลิกอยู่ที่ Background copy) ก็จะได้ข้อความแบบลำแสงกระจายตามต้องการ
6.การแทรกภาพลงในชิ้นงานของเราโดยคลิกที่ file > open > เลือกภาพที่ต้องการ แล้วคลิก ok แล้วเลือกเครื่องมือ Rectangular tool แล้วแดรกเมาส์เลือกพื้นที่ที่ต้องการจากนั้น กด ctrl+C เพื่อ copy ส่วนที่เราเลือกจากนั้นนำไปวางบนงานของเราโดยกด ctrl+v
7.ทำการย่อ-ขยายภาพโดยคลิกที่เมนู Edit > Transform > Scale เมื่อได้ขนาดตามต้องการแล้วหากต้องการหมุดภาพให้คลิกที่ เมนู Edit > Transform > Rolate แล้วนำเมาส์ไปแดรกที่มุมภาพ หมุนตามที่ต้องการ เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter เพื่อสั่งให้ทำงาน
วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2552
-การติดตั้งโปรแกรม Adobe Photoshop CS3
2. โปรแกรมจะถามว่า จะบันทึกที่ไหน ให้คลิก Save ที่ไดร์ C และโปรแกรมจะทำการคัดลอกไฟล์ต้นฉบับมาไว้ที่ไดรฟ์ C
3. เมื่อ Download ไฟล์มาเสร็จ ให้ทำการ UnZip ไฟล์ ก็จะได้ไฟล์ Setup เพื่อดำเนินการติดตั้งให้ดับเบิ้ลคลิ๊กไฟล์ดังกล่าว (กรณีที่เปิดใช้โปรแกรมอื่นอยู่โปรแกรมจะแจ้งเตื่อนให้ปิดก่อน)จากนั้นให้คลิดที่ปุ่ม Try Again เพื่อลองใหม่อีกครั้ง
4. โปรแกรมจะถามว่า จะยอมรับลิขสิทธิ์ และเงื่อนไขต่างๆตามที่ตกลงหรือไม่(ตอบAccept ยอมรับ)
5. โปรแกรมจะถามเส้นทาง หรือแหล่งที่จะติดตั้งโปรแกรม (ไดรฟ์ต่างๆ ให้เลือกไดรฟ์ c)จากนั้นคลิก Next เพื่อทำงานต่อไป
6. โปรแกรมจะเริ่มทำการติดตั้ง คัดลอกไฟล์ต่างๆ ลงบนไดรฟ์c (ไดรฟ์ที่เราเลือกเพื่อติดตั้ง)
7. เมื่อติดตั้งเสร็จ (ไม่มีปัญหา) โปรแกรมจะแจ้งว่า Installation Completed ซึ่งแปลว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว
8. คลิกปุ่ม Finnish ซึ่งหมายถึงเสร็จสิ้นขั้นตอนกาติดตั้ง จากนั้นเมื่อเลือกใช้โปรแกรมๆจะทำการถามว่า จะใส่โปรแกรม (Serial Number)ซึ่งปกติจะมีมากับแผ่นโปรแกรม โดยให้ใส่เข้าในช่องสีเหลี่ยมแล้วคลิด Next เพื่อนทำงานต่อไป
9. โปรแกรมจะถามเพื่อให้ทำการลงทะเบียนเพื่อ update และรับข้อมูลข่าวสารต่างๆของโปรแกรม ถ้าเราลงทะเบียนก็ให้คลิกใส่ข้อมูลทุกช่อง แล้วคลิกปุ่ม Register Now (ในที่นี้เราไม่ลงทะเบียนให้คลิกปุ่ม Register later)
10. เข้าสู่หน้าจอสุดท้าย ซึ่งเราเลือก Do not register (หมายถึงไม่ลงทะเบียน)แล้วก็คลิกปุ่ม Continue ก็จะเป็นอันเสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม Adobe PhotoshopCS3
วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
-การติดตั้งโปรแกรม Nod32 Antivirus V.4
-การถอนโปรแกรม Nod32 antivirus
2.จะเข้าสู่หน้าต่าง Welcome to the ESET NOD32 Antivirus Setup Wizard คลิกปุ่ม Next
3.คลิกปุ่ม Remove แล้วคลิก Next
4.คลิก Remove จากนั้นโปรแกรมก็จะทำการลบโปรแกรมออกจากเครื่อง
5.คลิก Finish
6.โปรแกรมก็จะถามว่าต้องการรีสตาร์ทเครื่องหรือไม่ คลิก Yes เครื่องก็จะรีสตาร์ท
วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
-ขั้นตอนการติดตั้งวินโดว์ XP
2.จากนั้นก็บูตเครื่องจากแผ่นซีดี Windows XP Setup โดยเมื่อบูตเครื่องมา จะมีข้อความให้กดปุ่มอะไรก็ได้ เพื่อบูตจากซีดี ก็เคาะ Enter ไปทีนึงก่อนโปรแกรมจะทำการตรวจสอบและเช็คข้อมูลอยู่พักนึง รอจนขึ้นหน้าจอ Welcome to Setup จากนั้นก็ทำการลบและแบ่ง partition ตามจำนวน drive ที่ต้องการ
3. ทำการเลือก Drive ของฮาร์ดดิสก์ที่จะลง Windows XP ให้เลือก Drive C แล้วกดปุ่ม Enter เพื่อทำการติดตั้งต่อไป
4.เลือกรูปแบบการ format Harddisk ว่าจะ format แบบ FAT หรือ NTFS ในที่นี้ให้เลือกแบบ NTFS และเลือกทำการฟอร์แมตแบบเร็ว
5.เมื่อ format เสร็จแล้วโปรแกรมจะทำการ Copy file เพื่อติดตั้ง windows รอสักครู่เครื่องจะ restartใหม่อีกครั้ง (ให้ใส่แผ่นซีดีไว้ในเครื่องแบบนั้น แต่ไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ เมื่อบูตเครื่องใหม่ ปล่อยให้โปรแกรมทำงานไปเองได้เลย)
6.โปรแกรมจะเริ่มต้นขั้นตอนการติดตั้งต่าง ๆ ก็รอไปเรื่อย ๆ
7.จะมีเมนูของการให้เลือก Regional and Language ให้ปรับแต่งค่าต่างๆให้เรียบร้อยจากนั้นคลิก Nextหน้าต่างต่อไปให้ใส่ชื่อและบริษัทของผู้ใช้งาน ใส่เป็นอะไรก็ได้ แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป จะปรากฏหน้าต่าง Computer Name and Administrator Password ให้ใส่ชื่อของคอมพิวเตอร์ในช่อง Computer Name จากนั้นคลิก Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไปเลือก Time Zone ให้เป็นของไทย (GMT+07:00) Bangkok, Hanoi, Jakarta แล้วกดปุ่ม Next เพื่อทำการติดตั้งต่อไป
8.รอสักพัก จนกระทั่งขั้นตอนต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย ก็พร้อมแล้วสำหรับการเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows XP จากนั้น จะมีการบูตเครื่องใหม่อีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นการใช้งานจริง ๆ
วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
-ประวัติส่วนตัว
ชื่อเล่น กอล์ฟ
เบอร์โทรศัพท์ 0800101940
จบจาก โรงเรียนพณิชยการกาฬสินธุ์ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
เกิดวันที่ 25 มิถุนายน 2533
200 หมู่ที่ 20 บ้านโนนแดง ตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
งานอดิเรก อ่านหนังสือ เล่นกีฬา
สีที่ชอบ สีชมพู
รายการที่ชอบ การ์ตูน
อาหารที่ชอบ กะเพาหมูกรอบ
ดาราที่ชอบ วง super junior
อาชีพที่ใฝ่ฝัน ทำงานข้าราชการ
คติประจำใจ อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าดูหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา